โรคอ้วน (obesity) เป็นภาวะที่ร่างกายสะสมไขมันเลวมากผิดปกติจนไม่สามารถเผาผลาญได้ ทำให้สารอาหารที่หลงเหลืออยู่ถูกปรับเปลี่ยนให้อยู่ในรูปไขมัน และไขมันเหล่านั้นจะไปสะสมในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย จนทำให้ส่งผลให้ร่างกายมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ดังนี้
- โรคเบาหวาน
- โรคความดันโลหิตสูง
- โรคไขมันพอกตับ
- โรคหัวใจ
- โรคมะเร็งชนิดต่างๆ
- โรคผิวหนัง เช่น ขนดก สิว ฯลฯ
- ฯลฯ
โรคอ้วนเราสามารถวัดได้หลากหลายวิธี แต่วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก คือ การวัดจากดัชนีมวลกาย หรือ BMI (Body Mass Index) เพื่อประเมินว่าร่างกายมีภาวะอ้วนหรือไม่ โดยสามารถคำนวณตามวิธีดังต่อไปนี้
ดัชนีมวลกาย = น้ำหนัก (กิโลกรัม) / [ส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง]
- ค่าดัชนีมวลกาย < 18.5 = ผอม
- ค่าดัชนีมวลกาย 18.5 – 22.9 = ปกติ
- ค่าดัชนีมวลกาย 23.0 – 24.9 = น้ำหนักเกิน
- ค่าดัชนีมวลกาย >25.0 = อ้วน
โรคอ้วนเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่ทำให้หลายคนเสี่ยงโรคอ้วน คือ การไม่ออกกำลังกาย และการทานอาหารตามใจปาก ทุกคนสามารถหลีกเลี่ยงจากโรคอ้วนได้ง่ายๆ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพายาลดความอ้วนให้เสียเงิน และอันตรายต่อร่างกาย เพียงแค่ทำการเบิร์นไขมันวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 4-5 วัน ก็สามารถลดความเสี่ยงการเป็นโรคอ้วนได้แล้ว วิธีเบิร์นไขมันที่เห็นผลจริง และไม่อันตรายต่อสุขภาพ สามารถทำตามดังวิธีต่อไปนี้
วิธีเบิร์นไขมัน ลดความอ้วน ลดการเจ็บป่วย
- กระโดดเชือก เป็นการเบิร์นน้ำหนักทุกสัดส่วนของร่างกาย แม้จะกระโดดเชือกในระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็สามารถเผาผลาญไขมันได้สูงถึง 10 กิโลแคลอรีต่อนาที
- เต้นแอโรบิค การเต้นแอโรบิคไม่จำเป็นจะต้องเต้นด้วยท่ายากๆ ที่อันตรายต่อร่างกาย คุณสามารถออกสเต็ปท่าท่าแบบง่ายๆ ก็สามารถเผาผลาญไขมันได้แล้ว การเต้นแอโรบิคสามารถเผาผลาญไขมันได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนัก แต่มีงานวิจัยกล่าวว่าการเต้นแอโรบิคสามารถเอาผลาญไขมันได้สูงถึง 90-260 แคลอรี
- เดินเร็ว (Brisk Walking) เป็นการออกกำลังในรูปแบบคาร์ดิโอ ที่กระตุ้นการเผาผลาญได้เป็นอย่างดี กระตุ้นการทำงานของหัวใจได้ดี เมื่อทำต่อเนื่องติดๆ กันสามารถลดไขมันได้ด้วย
- การวิ่ง สำหรับการวิ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมในทุกเพศ ทุกวัย สามารถเบิร์นไขมันได้อย่างปลอดภัย และเห็นผลจริง สำหรับการวิ่งนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ วิ่งเหยาะๆ วิ่งปกติ และวิ่งเร็ว การวิ่งแต่ละประเภทจะลดแคลอรีในปริมาณที่แตกต่างกัน คือ
- วิ่งเหยาะๆ จะทำการเผาผลาญ 9 แคลอรีต่อนาที
- วิ่งปกติ จะทำการเผาผลาญ 13 แคลอรีต่อนาที
- วิ่งเร็ว จะทำการเผาผลาญ 20 แคลอรีต่อนาที
เพียงแค่คุณเบิร์นไขมันตามวิธีที่เราแนะนำไปข้างต้น คุณก็จะได้หุ่นสวยตามต้องการ และปลอดภัยจากโรคอันตรายอีกด้วย