โรคตับแข็ง (Cirrhosis) เป็นโรคที่ตับถูกทำลายจากปัจจัยต่างๆ จนได้รับความเสียหายจนกลายเป็นแผลเป็นถาวร ที่มีลักษณะคล้ายพังผืดเกิดขึ้นที่บริเวณเนื้อตับ และพังผืดที่เกิดขึ้นถ้าหากไม่รีบทำการรักษา ก็จะทำให้รุนแรงขึ้นจนกลายเป็นโรคตับแข็งในที่สุด
ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคตับแข็ง
- การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี
- การมีน้ำหนักมากเกินไป
- ทานยาหรือสมุนไพรมากจนเกินไป
- เป็นโรคไขมันพอกตับ โรคตับอักเสบ โรคอ้วน หรือโรคเบาหวาน
- เกิดภาวะหัวใจวาย
6 สัญญาณอันตรายจากร่างกายที่บ่งบอกว่าคุณมีความเสี่ยงเป็นโรคตับแข็ง
1. มีการบวมในช่องท้อง หรือเรียกว่าท้องมาน
สำหรับผู้ป่วยโรคตับแข็งส่วนใหญ่มักจะมีการบวมที่ช่องท้อง เนื่องจากมีของเหลวรั่วออกมาจากตับและมาสะสมที่ช่องท้อง จึงทำให้ท้องของผู้ป่วยที่เป็นโรคตับแข็งนั้นมีการบวมเกิดขึ้น และสาเหตุที่ทำให้ของเหลวรั่วออกมาจากตับจนทำให้มีการบวมที่ช่องท้องนั้น เป็นเพราะว่าผู้ป่วยโรคตับแข็งจะมีการทำงานของตับลดลง ทำให้ตับผลิตฮอร์โมนอัลบูมิน (Albumin) ที่ช่วยในการอุ้มน้ำในกระแสเลือดได้ลดน้อยลง จึงทำให้ของเหลวมาสะสมที่ตับปริมาณมากขึ้นและได้รั่วไปสะสมที่ช่องท้องจนทำให้เกิดการบวมในช่องท้องหรือเรียกว่าท้องมานนั่นเอง ใครที่มีอาการนี้สามารถสันนิษฐานได้เลยว่าอาจจะเป็นอาการของโรคตับแข็ง
2. มีอาการเท้าบวม
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคตับแข็งจะมีการบวมของเท้า เนื่องจากว่าต้องรับน้ำหนักตัวที่เพิ่มมาก เพราะผู้ป่วยมีอาการท้องมานหรือมีการบวมที่ช่องท้อง ที่เกิดจากการสะสมของเหลวในช่องท้องจำนวนมาก ทำให้มีน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นจึงทำให้เท้าของผู้ป่วยจึงมีลักษณะบวม ใครที่มีลักษณะเท้าบวมและท้องบวมคุณอาจจะเป็นตับแข็งได้ เมื่อคุณมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อที่วินิจฉัยโรคและสามารถรักษาได้ทัน
3. ผิวช้ำง่ายและมีเลือดออกบ่อย
การที่ร่างกายเลือดออกง่ายหรือว่าเกิดการช้ำที่ผิวหนังบ่อยขึ้นนั้น เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคนนั้นมีปัญหาเกี่ยวกับตับ เพราะการที่ร่างกายจะช้ำหรือมีการเลือดออกง่ายนั้น ได้หมายความว่าประสิทธิภาพการทำงานของตับนั้นลดลง ทำให้ไม่สามารถสร้างโปรตีนไฟบริโนเจน(Fibrinogen) ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้เลือดแข็งตัวได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จึงทำให้ผู้ป่วยตับแข็งมีผิวที่ช้ำหรือว่าเลือดออกง่ายนั่นเอง
4. มีการอาเจียนเป็นเลือด
สำหรับผู้ป่วยโรคตับแข็งส่วนมากจะมีการอาเจียนเป็นเลือด หรือเรียกว่าภาวะหลอดเลือดขอดในหลอดอาหาร (Esophagealvarices) เกิดจากพังผืดในตับที่ทำให้ความดันภายในตับและภายในหลอดอาหารสูงขึ้น ส่งผลให้เส้นเลือดที่อยู่ในหลอดอาหารนั้นเกิดแตกออกมา จึงทำให้มีการอาเจียนเป็นเลือดนั่นเอง
5. มีปัญหาการนอนหลับ
ตับมีหน้าที่ในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย แต่ถ้าหากผู้ป่วยเป็นโรคตับแข็งก็จะทำให้การทำงานของตับลดลง ทำให้สารพิษตกค้างอยู่ในร่างกายมากขึ้น และสารพิษที่อยู่ในร่างกายได้ส่งผลทำให้ผู้ป่วยมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับที่ยากขึ้น หลับไม่เป็นเวลา หรือหลับไม่สนิท
6. มีการคันที่ผิวหนัง
ตับมีหน้าที่ในการผลิตน้ำดี โดยน้ำดีที่ผลิตได้ส่วนหนึ่งจะไหลตามท่อน้ำดีไปที่ลำไส้เล็ก เพื่อทำการย่อยไขมันจากอาหารที่เราทานเข้าไป และในส่วนที่เหลือจะไปสะสมในถุงน้ำดี แต่ถ้าใครเป็นโรคตับแข็งก็จะเกิดการอุดกั้นการไหลของน้ำดี ทำให้น้ำดีไปสะสมอยู่ที่บริเวณใต้ผิวหนัง จึงทำให้ร่างกายของผู้ป่วยมีการคันตามส่วนต่างๆ นั่นเอง
ใครที่มีอาการป่วยอย่างน้อย 1 ใน 6 จากที่กล่าวมาทั้งหมด แนะนำว่าควรรีบไปพบแพทย์เพื่อจะได้วินิจฉัยโรคว่าเป็นตับแข็งหรือไม่ เพราะถ้าเป็นตับแข็งจะได้ทำการรักษาอย่างถูกวิธีอาการของผู้ป่วยจะได้ไม่ทรุดหนักจนเกินไป และสามารถกลับไปดำรงชีวิตได้ตามปกติ