พิษเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบทั่วโลกในปัจจุบันนี้ ทำให้เกิดยุคข้าวยากหมากแพง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอุปโภคหรือบริโภคต่างก็มีราคาที่สูงมากขึ้น หรือเรียกว่าภาวะเงินเฟ้อ (Inflation) นั่นเอง เพราะภาวะเงินเฟ้อทำให้คนไทยส่วนใหญ่มีเงินเดือนไม่เพียงพอต่อการใช้งาน เพราะข้าวของที่จำเป็นในการดำรงชีวิตได้มีราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีท่าทีว่าจะราคาลดลง จึงทำให้คนไทยไม่น้อยต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อให้รายรับเพียงต่อรายจ่ายในแต่ละเดือน
การทำงานหาเงินเลี้ยงชีพไม่ว่าอยากจะทำงานหนักแค่ไหนก็ตาม ร่างกายของเราก็ต้องการพักผ่อนหรือต้องการผ่อนคลายจากการทำงานหนักในแต่ละวัน และสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับการผ่อนคลายร่างกายและผ่อนคลายสมองจากการทำงานหนักที่เหล่าวัยทำงานส่วนใหญ่ชื่นชอบคือ “ผับ” สถานที่สำหรับแฮงค์เอาท์ยามค่ำคืนที่ช่วยผ่อนคลายสมอง ที่เต็มไปด้วยแสง สี เสียง ที่ช่วยลดความเครียดจากการทำงานได้ดีเป็นอย่างมาก นอกจากนี้แล้วการดื่มแอลกอฮอล์สักแก้วช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับสนิทตลอดทั้งคืน เมื่อต้องไปทำงานในวันใหม่ก็จะทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า รู้สึกสดชื่น และสมองไบรท์พร้อมทำงานอย่างมาก
สำหรับแอลกอฮอล์ถึงแม้ว่าดื่มแล้วจะทำให้ร่างกายรู้สึกได้รับความผ่อนคลาย หรือทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าแค่ไหนก็ตาม การดื่มแอลกอฮอล์ย่อมส่งผลเสียมากกว่าผลดีให้แก่ร่างกาย และยังทำให้ไขมันในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นก่อให้เกิดความเสี่ยงเกิดภาวะอ้วนลงพุง ถึงแม้จะมีงานวิจัยระบุว่าผู้ที่มีขนาดร่างกายใหญ่หรือดัชนีมวลกายมากกว่า 25 จะสามารถขจัดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายได้เร็วกว่าผู้ที่มีดัชนีมวลกายน้อยกว่า 20แต่การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากร่างกายก็ไม่สามารถขจัดได้หมดถึงแม้ว่าคุณจะมีดัชนีมวลกายสูงก็ตาม
ผลเสียการดื่มแอลกอฮอล์ที่มีต่อร่างกาย
แอลกอฮอล์ถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย เมื่อเราดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปร่างกายจึงพยายามที่จะกำจัดออกให้หมดทุกครั้ง เพื่อที่จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย แต่การที่ร่างกายของคนเราจะสามารถกำจัดแอลกอฮอล์ได้หมดโดยไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายนั้น การดื่มแอลกอฮอล์ควรจะดื่มในปริมาณที่เหมาะสมและไม่ดื่มติดต่อกันเป็นเวลานาน แต่ถ้าหากดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำและดื่มในปริมาณมากนั้น คงยากที่ร่างกายจะกำจัดของเสียนี้ออกจากร่างกายให้หมดโดยที่ไม่ส่งผลผลกระทบต่อร่างกาย ดังนั้น ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ จึงมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไขมันพอกตับอย่างมาก
โรคไขมันพอกตับคืออะไร?
โรคไขมันพอกตับ (Fatty liver) ภาวะที่ตับมีการสะสมไขมันมากเกินไป หรือเรียกว่าไขมันเกาะตับ เกิดจากการทานอาหารที่มีไขมันสูงมากเกินความต้องการของร่างกาย จนไขมันที่ทานเข้ามานั้นไม่สามารถนำไปใช้งานได้หมด ไขมันที่หลงเหลืออยู่ได้เปลี่ยนไปอยู่ในรูปไตรกลีเซอไรด์แล้วไปสะสมในตับ จึงทำให้เกิดเป็นโรคไขมันพอกตับนั่นเอง สำหรับโรคชนิดนี้จะไม่แสดงอาการเจ็บป่วยออกมาให้เห็น แต่ถ้าหากไปรีบรักษาให้ถูกวิธีก็อาจจะกลายเป็นตับแข็งและมะเร็งตับได้
อาการของโรคไขมันพอกตับ
- มีน้ำหนักลดลงผิดปกติทั้งที่ไม่ได้ลดน้ำหนัก
- มีอาการอ่อนเพลีย รู้สึกเหนื่อยอยู่เสมอ
- การตัดสินใจและสมาธิลดลง
วิธีป้องกันโรคไขมันพอกตับ
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
- ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ เพื่อควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินเกณฑ์ (ไม่ควรให้ดัชนีมวลกายมากกว่า 25 สำหรับดัชนีมวลกายหรือ BMI ใช้สำหรับประเมินร่างกายว่าอยู่ในภาวะผอมหรือภาวะอ้วน ซึ่งสามารถคำนวณได้ดังนี้ ดัชนีมวลกาย = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) / ส่วนสูง (เมตรยกกำลังสอง))
- หมั่นทำความสะอาดร่างกาย ไม่แชร์ของใช้ส่วนตัวให้แก่ผู้อื่น เช่น มีดโกน กรรไกรตัดเล็บ ฯลฯ เพื่อหลีกเลี่ยงไวรัสตับอักเสบซีและบี
- ลดการทานอาหารที่ให้พลังงานสูงหรือให้ไขมันสูง (เช่น อาหารอะไรบ้าง) เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารทะเล อาหารทอด เนย ฯลฯ
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีรสหวาน เพื่อป้องกันการป่วยเป็นโรคเบาหวาน
