โรคตับแข็ง (Cirrhosis) เป็นโรคที่ตับได้รับความเสียหายส่งผลให้ภายในตับเกิดแผลเป็นตลอดชีวิตและไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ลักษณะของแผลเป็นจะมีลักษณะเป็นพังผืดเกิดขึ้นบนเนื้อตับ เมื่อตับเกิดพังผืดขึ้นก็ส่งผลให้การทำงานต่างๆ ของตับนั้น ไม่สามารถทำงานได้เหมือนเดิมหรือทำงานได้ลดลงจากเดิม และเมื่อพังผืดเกิดมากขึ้นก็ก่อให้เกิดโรคตับแข็งนั่นเอง
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคตับแข็ง
- การดื่มสุราเป็นเวลานาน
- การทานยาเป็นเวลานาน
- เกิดภาวะไขมันพอกตับขึ้นภายในร่างกาย
- เกิดจากไวรัสตับอักเสบชนิดบีและซี
ผู้ป่วยเป็นโรคตับแข็งแล้วส่วนมากแพทย์จะทำการรักษาโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการกระจายของพังผืดไปทั่วเนื้อตับ และผู้ป่วยส่วนมากกว่าจะพบว่าเป็นโรคตับแข็ง อาการของผู้ป่วยส่วนมากก็อยู่ในขั้นอันตราย ทำให้แพทย์ต้องใช้ยาในการรักษาเพื่อลดความรุนแรงของโรค และป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนที่ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอันตรายมากกว่าเดิม
แต่การรักษาโรคตับแข็งใช่ว่าจะพึ่งเพียงแค่ยาจากแพทย์ก็จะช่วยทุเลาความรุนแรงของโรคได้ เพราะการจะให้สุขภาพผู้ป่วยทุกคนดีขึ้นจะต้องให้ความร่วมมือในการดูร่างกายตัวเองควบคู่ไปกับการรักษาของแพทย์ จึงจะทำให้การรักษาโรคตับแข็งนั้นดีที่สุด ดังนั้น การบำบัดผู้ป่วยโรคตับแข็งด้วยวิธีทางธรรมชาติก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เห็นผลดีต่อผู้ป่วยโรคตับแข็งทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ
การบำบัดผู้ป่วยโรคตับแข็งด้วยวิธีการทางธรรมชาติ
1. พยายามล้างพิษในตับอยู่เสมอ
ตับเป็นอวัยวะในร่างกายที่ทำหน้าที่หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการผลิตหรือกักเก็บสารสำคัญในร่างกาย ตับจะมีการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง และทำงานตลอดชีวิตจนกว่าเราจะตาย เราจะเห็นว่าตับทำงานค่อนข้างหนัก ดังนั้น ทุกคนควรใส่ใจการดูแลสุขภาพตับให้ดีกว่านี้ ซึ่งการล้างพิษในตับอยู่เป็นประจำก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ส่งผลดีต่อตับ ทำให้ตับไม่เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรและไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย สำหรับการล้างพิษตับสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการทานอาหารดังต่อไปนี้
- น้ำมะนาวคั้นสด
- ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
- ขมิ้น
- ขิง
- รากหญ้าเจ้าชู้
- น้ำมันมะกอก
- ฯลฯ
2. นอนให้เป็นเวลา
การนอนเป็นการบำบัดผู้ป่วยด้วยวิธีทางธรรมชาติที่ส่งผลดีต่อผู้ป่วยทุกโรค การนอนเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการบำบัดตัวเองด้วยวิธีทางธรรมชาติ สำหรับผู้ป่วยโรคตับแข็งควรนอนอย่างต่ำวันละ 8 ชั่วโมง และท่านอนที่ดีที่สุด คือ นอนตะแคงขวา เพราะช่วยให้ตับไม่ถูกกดทับและช่วยให้เลือดไปซ่อมแซมตับได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้แล้วการนอนควรจะปิดไฟนอน หลีกเลี่ยงการนอนคลุมโปง การนอนคว่ำ ที่สำคัญคือควรนอนเร็ว และไม่นอนดึกจนเกินไป เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้ตับมีสุขภาพดีแล้ว
3. ลดการดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ หรือการทานยาประเภทอื่นๆ นอกจากแพทย์สั่ง
ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าการดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ หรือการทานยาประเภทต่างๆ นอกจากที่แพทย์ให้ทานเป็นเวลานานจะส่งผลเสียต่อตับมากที่สุด และการบำบัดผู้ป่วยด้วยวิธีธรรมชาติแบบง่ายๆ แต่อาจจะใช้เวลานาน คือ ลดการดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ หรือทานยาก็จะช่วยให้ความรุนแรงของโรคลดน้อยลง ช่วยลดการเกิดโรคแทรกซ้อนในผู้ป่วย และผู้ป่วยมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีมากขึ้น
4. ทานผักและผลไม้ที่เป็นออร์แกนิก
การทานผักและผลไม้ออร์แกนิกนั้น จะปลอดสารเคมีที่ส่งอันตรายต่อร่างกาย และจะเต็มไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยให้ร่างกายขับถ่ายง่าย เพราะเต็มไปด้วยไฟเบอร์ ทำให้ตับไม่ทำงานหนักเกินไป
