“ไวรัสตับอักเสบเอ” ภัยเงียบที่อันตรายถึงชีวิต

ไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A Virus) เป็นภาวะตับอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ (HAV) โดยมีการแพร่เชื้อผ่านการสัมผัสผู้ติดเชื้อ การดื่มน้ำ และการทานอาหาร แต่ไวรัสชนิดนี้ผู้ป่วยส่วนมากสามารถรักษาให้หายขาดได้และมีอาการป่วยที่ไม่รุนแรง ไวรัสตับอักเสบเอเป็นโรคที่ไม่อันตรายเท่าไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสตับอักเสบซี จึงทำให้มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสตับอักเสบชนิดนี้เพียง 0.5% จากผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบจากทั่วโลก โดยเป็นจำนวนกว่า 7134 ราย

เพราะอะไรไวรัสตับอักเสบเอจึงเป็นภัยเงียบที่อันตรายถึงชีวิต?

ไวรัสตับอักเสบเอในปัจจุบันเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนที่มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันที่ดีและมีความปลอดภัยสูง ทำให้ในทุกวันนี้ผู้คนส่วนมากไม่กังวลในโรคไวรัสตับอักเสบเอแล้ว เพราะโรคนี้มีวัคซีนในการป้องกันและเมื่อติดไวรัสชนิดนี้แล้วผู้ป่วยส่วนมากจะมีอาการไม่รุนแรงและสามารถรักษาให้หายได้ จึงมีการใช้ชีวิตแบบไม่ระวังตัว ซึ่งอาจจะเสี่ยงต่อการติดไวรัสตับอักเสบเอโดยไม่รู้ตัว และอาจจะแพร่ไวรัสชนิดนี้ไปให้คนใกล้ชิดอีกด้วย

แต่ทุกคนก็ทราบดีว่าร่างกายของแต่ละคนนั้นมีภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้ป่วยที่ติดไวรัสตับอักเสบเอมีอาการรุนแรงที่ไม่เท่ากัน และผู้ป่วยระยะแรกที่ติดไวรัสตับอักเสบเอส่วนมากจะไม่แสดงอาการ และผู้ป่วยส่วนมากร่างกายแสดงอาการออกมาเมื่ออาการป่วยนั้นอยู่ในระดับที่รุนแรง และถ้าไม่รีบรักษาอาจจะเสี่ยงเป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ โดยไม่รักษาผู้ป่วยก็อาจจะเสี่ยงเป็นโรคตับแข็งเพราะตับถูกทำลายไปมาก เมื่อเป็นตับแข็งมีโอกาสสูงอย่างมากที่จะป่วยเป็นมะเร็งตับ และโรคมะเร็งตับเป็นโรคที่มีอัตราเสียชีวิตที่สูงมากๆ ในประเทศไทย เมื่อป่วยเป็นมะเร็งตับแล้วมีโอกาสน้อยมากๆ ที่ผู้ป่วยจะหายจากการป่วยและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ

ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคไวรัสตับอักเสบเอ

  • ผู้ที่เดินทางไปพื้นที่เสี่ยงที่มีผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบเอจำนวนมากโดยที่ไม่ได้รับวัคซีน
  • ผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อ หรือเป็นครอบครัวของผู้ติดเชื้อ
  • การมีเพศสัมพันธ์ผ่านทางปากและทางทวารหนัก
  • มีการสัมผัสกับผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบเอ

อาการของโรคไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A Virus)

  • เบื่ออาหาร
  • รู้สึกอ่อนเพลีย บางคนอาจจะมีไข้ร่วมด้วย
  • ปัสสาวะสีเข้ม
  • มีอาการดีซ่าน (ตามีสีขาวและผิวหนังเป็นสีเหลือง)
  • มีอาการคลื่นไส้ ไม่สบายท้อง

วิธีการป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A Virus)

  • หลีกเลี่ยงการทานน้ำร่วมกับผู้อื่น
  • หมั่นทำความสะอาดมืออยู่เป็นประจำไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม
  • ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบเอ
  • ทานอาหารที่ร้อน และใช้ช้อนกลางรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงการใช้ช้อน ส้อม หรือหลอดร่วมกับผู้อื่น
  • หมั่นตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อจะได้พบเชื้อได้ในเวลารวดเร็วและรักษาให้หายขาด

ส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบเอจะสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่เด็กและผู้สูงอายุที่มีภูมิต้านทานต่ำอาจจะมีอาการป่วยที่รุนแรง ดังนั้น ใครที่มีอาการป่วยใกล้เคียงกับโรคไวรัสตับอักเสบบี ควรที่จะรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรค เพราะถ้าหากตรวจพบว่าเป็นไวรัสตับอักเสบบี จะได้รักษาได้ทันท่วงทีไม่แพร่เชื้อไปสู่คนที่ภูมิคุ้มกันต่ำนั่นเอง

สอบถาม