โรคเบาหวาน (Diabetes) โรคร้ายที่อันตรายต่อตับ! สาเหตุและวิธีการป้องกัน

มีใครเคยสงสัยไหมว่าทำไมคนถึงนิยม “ของหวาน” ทั้งที่รู้กันว่าการทานของหวานเสี่ยงต่อโรคหลายประเภท สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะสมองของเรามีการหลั่งสารสื่อประสาท Serotonin ออกมา เมื่อหลั่งสารสื่อประสาทชนิดนี้ออกมาแล้วจะทำให้ผู้ทานขนมหวานเกิดความสุข ความผ่อนคลาย และลดความเครียด เราจึงมักจะเห็นคนส่วนมากทานของหวานเมื่อทำงานหนัก เมื่อเกิดความเครียด หรือเมื่อวิตกกังวล ถึงแม้จะรู้ว่าการทานของหวานในปริมาณมากจะเป็นอันตรายต่อร่างกายนั่นเอง

เมื่อเราทานของหวานตามใจปากเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงมาก เมื่อร่างกายของเรามีปริมาณน้ำตาลสูงก็จะเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวาน สำหรับบางคนที่คิดว่าโรคเบาหวานเป็นโรคที่ไม่น่ากังวลและไม่อันตรายมาก บอกได้เลยว่าคุณคิดผิด! เพราะโรคเบาหวานเป็นโรคที่อันตรายมากๆ แถมไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมความรุนแรงของโรคได้ ดังนั้น บทความนี้จะพาไปรู้จักกับโรคเบาหวาน วิธีป้องกันโรค ปัจจัยเสี่ยงโรคเบาหวานนอกจากการทานขนมหวาน และผลกระทบต่อร่างกายเมื่อเป็นโรคเบาหวานที่ควรรู้เอาไว้

โรคเบาหวานคืออะไร?

โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) คือ ภาวะที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ มีสาเหตุจากภาวะดื้ออินซูลินทำให้ฮอร์โมนอินซูลินมีประสิทธิภาพการทำงานลดลง หรือเกิดจากตับอ่อนทำงานผิดปกติทำให้หลั่งฮอร์โมนอินซูลินน้อยกว่าปกติ หากปล่อยให้ร่างกายอยู่ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติจะส่งผลให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมาอีกมากมาย

“โรคเบาหวาน” แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร?

  • เบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ มักพบในเด็ก
  • เบาหวานชนิดที่ 2 เป็นโรคเบาหวานที่พบบ่อยมากที่สุด เกิดจากร่างกายมีดื้อภาวะฮอร์โมนอินซูลิน มักพบในผู้สูงอายุ
  • เบาหวานชนิดที่ 3 เกิดขณะที่ตั้งครรภ์ สำหรับโรคเบาหวานประเภทนี้จะหายไปหลังจากคลอดลูก
  • เบาหวานชนิดที่ 4 เกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น พันธุกรรม การรับประทานยา ความผิดปกติของฮอร์โมน หรือจากโรคบางชนิด (โรคตับอักเสบเรื้อรัง) เป็นต้น

อาการที่พบบ่อยของผู้ป่วยโรคเบาหวาน

  • ปัสสาวะบ่อย
  • ชาตามปลายมือ ปลายเท้า
  • อ่อนเพลีย
  • ดื่มน้ำบ่อย
  • ทานมากแต่น้ำหนักน้อย
  • สายตาพร่ามัว

สาเหตุการเกิดโรคเบาหวาน

  • เกิดจากโรคบางชนิด เช่น
    • โรคตับอักเสบเรื้อรัง
    • โรคซิสติก ไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis)
  • มีน้ำหนักตัวมากกว่าปกติ
  • อายุมาก
  • ความเครียด
  • การตั้งครรภ์
  • การรับประทานยาบางประเภท เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ เป็นต้น
  • ครอบครัวมีประวัติเป็นโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานส่งผลต่อตับอย่างไร?

เมื่อเป็นโรคเบาหวานแล้วไม่รีบรักษา หรือไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ จะเพิ่มความเสี่ยงโรคแทรกซ้อน เช่น โรคตับแข็ง สำหรับสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีความเสี่ยงเป็นโรคตับแข็ง เป็นเพราะว่าร่างกายเกิดภาวะเมแทบอลิกซินโดรม (Metabolic Syndrome) เป็นภาวะที่ร่างกายเผาผลาญอาหารผิดปกติ ทำให้ร่างกายเกิดภาวะดื้ออินซูลิน เมื่อร่างกายมีภาวะเมแทบอลิกซินโดรมร่วมกับการเป็นโรคเบาหวาน ส่งผลให้ตับเกิดการอักเสบเรื้อรังจนทำให้กลายเป็นตับแข็ง ถ้าไม่รักษาตับก็จะเกิดพังผืดมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นมะเร็งตับได้

วิธีป้องกันโรคเบาหวาน

  • เลือกทานผักและผลไม้
  • หลีกเลี่ยงการทานอาหารรสเค็ม
  • การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสหวาน
  • หากิจกรรมเพื่อลดความเครียด

ปรึกษาปัญหาสุขภาพตับโดยผู้เชี่ยวชาญได้ที่  091-529-8263 หรือแอดไลน์มาที่ @Helthywish

สอบถาม