รู้ไหม ? ท้องผูก ไม่ดีต่อตับอย่างไร

ท้องผูก ไม่ดีต่อตับอย่างไร

ระวังท้องผูก ! ทำให้ตับทำงานหนักขึ้น

ปัญหาท้องผูกเกี่ยวข้องกับตับอย่างไร

ตับทำหน้าที่หลักในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ซึ่งจะต้องทำงานร่วมกับระบบการย่อยอาหารและระบบการกำจัดของเสียของร่างกาย โดยเฉพาะระบบการขับถ่าย

เมื่อเรารับประทานอาหารเข้าไปแล้วจะดูดซึมสารอาหารผ่านทางกระเพาะและลำไส้ และในกระบวนการนี้จะเกิดของเสียสารพิษต่างๆที่ย่อยสลายไม่หมดส่งผ่านไปที่ตับเพื่อทำการกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย 

ในผู้ที่มีปัญหาท้องผูก สารพิษที่อ ยู่ในอุจจาระจะไม่ได้ถูกขับออกจากร่างกายออกไป เมื่อสะสมทิ้งไว้นานๆร่างกายจะมีการดูดซึมสารพิษบางส่วนผ่านผนังลำไส้กลับเข้าสู่ร่างกายอีกครั้ง ทำให้เป็นภาระเพิ่มในการกำจัดสารพิษของตับอีกครั้ง

อีกทั้งเมื่อท้องผูกจะทำให้จุลินทรีย์ที่ไม่ดีและแบคทีเรียในลำไส้เพิ่มมากขึ้นจนเกิดสารพิษเยอะขึ้นอีกจึงทำให้ตับทำงานหนักขึ้น

ผู้ป่วยโรคตับระวังอย่าปล่อยให้ท้องผูกบ่อยๆ

ในขณะที่มีภาวะตับอักเสบหรือตับแข็งประสิทธิภาพในการทำงานของตับจะแย่ลงอยู่แล้วระบบการขับสารพิษของร่างกายจึงไม่ค่อยดีและยิ่งเราเพิ่มสารพิษด้วยการสะสมอุจจาระไว้ในลำไส้จนเกิดสารพิษต่างๆมากขึ้น แต่ก็จะรับภาระหนักขึ้นอีกและร่างกายอาจจะกำจัดสารพิษได้ไม่สมบูรณ์จนถึงขั้นหมดสติได้เลยค่ะ

และเมื่อร่างกายมีสารพิษสูงจะทำให้ระบบการทำงานโดยรวมของร่างกายแย่ลงในหลายระบบ ทำให้รู้สึกสุขภาพแปรปรวนมากยิ่งขึ้น และยิ่งผู้ป่วยพยายามหายามากินรับประทานแก้ไขมากขึ้นก็จะยิ่งทำให้ตับรับภาระหนักมากขึ้นในการกำจัดของเสียจากยาเคมี จึงกลายเป็นวงจรที่ยิ่งกินยิ่งแย่ลงในระยะยาวได้ค่ะ

มาถ่ายอุจจาระทุกวันกันเถอะค่ะ “

ผู้ป่วยโรคตับจึงควรให้ความสำคัญกับการขับถ่ายที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้การกำจัดสารพิษของร่างกายดีขึ้นและลดภาระของตับ

ที่สำคัญคือควรขับถ่ายให้เป็นช่วงเวลาเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า ด้วยแนะนำกินน้ำหลังตื่นนอนทันทีเพื่อไปกระตุ้นให้ลำไส้ใหญ่เกิ ดการบีบตัว หรือนวดท้องอย่างง่ายๆเพื่อกระตุ้นลำไส้ 

และอีกเทคนิคหนึ่งที่สำคัญคือพยายามหายใจเข้าลึกๆเพราะว่าปอดมีเส้นลมปราณที่เชื่อมอยู่กับลำไส้การหายใจที่ดีจะช่วยกระตุ้นไปถึงลำไส้ได้ค่ะ


บทความเรื่องตับอื่นๆ ที่น่ารู้

สอบถาม