ไวรัสตับอักเสบซี (Hepatitis C Virus) เป็นอีกหนึ่งภัยเงียบที่มีความอันตรายกว่าที่ทุกคนคิด จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่าในปัจจุบันนี้มีผู้ติดโรคไวรัสตับอักเสบซีทั่วโลกเป็นจำนวนกว่า 58 ล้านคน ในแต่ละปีมีผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบซีกว่า 1.5 ล้านคนต่อปี และมีผู้เสียชีวิตกว่า 290,000 คน ส่วนในประเทศไทยมีผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีกว่า 2.8% จากประชากรทั้งหมด แต่ถึงอย่างนั้นคนไทยส่วนใหญ่นั้นไม่ค่อยให้ความสำคัญหรือความสนใจต่อโรคนี้มากนักทั้งที่ไวรัสตับอักเสบชนิดนี้สามารถคร่าชีวิตได้
ทำไมไวรัสตับอักเสบซีถึงมีอัตราการเสียชีวิตที่สูง?
ไวรัสตับอักเสบซีเป็นไวรัสชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดตับอักเสบเฉียบพลัน สามารถติดต่อกันผ่านทางเลือดหรือทางเพศสัมพันธ์เท่านั้น โดยผู้ที่ติดเชื้อไวรัสชนิดจะหายเองตามธรรมชาติมีจำนวนสูงถึง 30% แต่ในอีก 70% ของผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อไวรัสจะกลายเป็นตับอักเสบเรื้อรังเป็นระยะเวลาประมาณ 20 ปี ในระยะแรกอาการของโรค 80% ของผู้ป่วยที่เป็นตับอักเสบเรื้อรังจะไม่แสดงอาการใดๆ แต่ในอีก 20% ผู้ป่วยที่ติดเชื้ออาจจะมีไข้สูง เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ปัสสาวะสีเข้ม ดีซ่าน ปวดข้อ อุจจาระสีซีด เป็นต้น พอหลังจากนั้นเนื้อตับบางส่วนถูกทำลายและเกิดพังผืดมากขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้นในทุกปี จนก่อให้เกิดตับแข็งสูงถึง 15-30% และเมื่อผู้ป่วยเป็นโรคตับแข็งแล้วมีโอกาสสูงอย่างมากที่จะเป็นโรคมะเร็งตับ และไวรัสตับอักเสบชนิดนี้เป็นสาเหตุอันดับ 1 ที่ทำให้เป็นมะเร็งตับมากที่สุด ซึ่งเมื่อเป็นโรคมะเร็งตับก็ทำให้อัตราการเสียชีวิตนั้นสูงอย่างมาก
วิธีป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบซี
- เมื่อมีเพศสัมพันธ์ต้องสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง
- ห้ามใช้เข็มฉีดยารวมกันอย่างเด็ดขาด
- ห้ามแบ่งปันของใช้ส่วนตัวให้แก้ผู้อื่น เช่น มีดโกน อุปกรณ์ในการสัก กรรไกรตัดเล็บ แปรงสีฟัน ฯลฯ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเลือดโดยตรง ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันทุกครั้ง
วิธีรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซี
การรักษาไวรัสตับอักเสบซีแพทย์จะทำการรักษาโดยให้ยาเพื่อกำจัดไวรัสออกจากร่างกายให้หมด สำหรับระยะเวลาในการรักษาอยู่ในช่วง 8-24 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ชนิดของไวรัสตับอักเสบ และโรคประจำตัวของผู้ป่วย หลังจากการรักษาเสร็จเรียบร้อยต้องทำการตรวจเช็กเชื้อไวรัสเป็นระยะเวลา 6 เดือน และต้องไม่พบเชื้อไวรัสการรักษาถึงจะเสร็จสมบูรณ์ ตัวอย่างยารักษาโรคไวรัสตับอักเสบชนิดนี้ เช่น
- Sofosbuvir และ Velpatasvir สามารถรักษาไวรัสตับอักเสบซีได้ทุกชนิด สำหรับผลข้างเคียงที่พบคือ ปวดศีรษะ เมื่อยล้า และหัวใจเต้นช้าลง
- Glecaprevir และ Pibrentasvir สามารถรักษาไวรัสตับอักเสบซีได้ทุกชนิด มีผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรง
- Sofosbuvir, Velpatasvir และ Voxilaprevir สามารถรักษาไวรัสตับอักเสบซีได้ทุกชนิด ยาชนิดนี้แพทย์จะจ่ายให้กับผู้ป่วยที่ไม่เป็นโรคตัวแข็ง และจ่ายยาให้ผู้ป่วยที่รักษาด้วยวิธีต่างๆ ที่ไม่ได้ผล สำหรับผลค้างเคียงที่พบบ่อย เช่น อาเจียน เหนื่อยล้า คลื่นไส้
- ฯลฯ
เพื่อให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงปราศจากโรคต่างๆ ทุกคนควรให้ความสำคัญต่อสุขภาพร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานผักและผลไม้ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และสำคัญที่สุดคือตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อให้มีอายุยืนยาว ไม่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วย และมีความสุขในการใช้ชีวิตเป็นประจำทุกวัน
