ไขมันพอกตับ (Fatty Liver) เป็นภาวะที่ตับมีการสะสมไขมันมากเกินไป เกิดจากการทานอาหารในปริมาณที่มากเกินไปจนเกินความต้องการของร่างกาย และร่างกายไม่สามารถนำไขมันที่อยู่ในอาหารไปใช้งานให้หมด ทำให้ไขมันที่หลงเหลืออยู่นั้นจึงไปสะสมอยู่ในตับและสะสมอยู่ในรูปไตรกลีเซอไรด์ สำหรับโรคนี้สามารถเกิดได้ทุกเพศทุกวัย แต่โรคไขมันพอกตับเป็นโรคที่ไม่แสดงอาการรุนแรง ดังนั้น กว่าที่ผู้ป่วยจะรู้ว่าเป็นไขมันพอกตับก็อาจจะอันตรายถึงชีวิตได้ถ้าหากไม่รีบทำการรักษา เพราะอาจจะส่งผลทำให้กลายเป็นโรคตับแข็งและมะเร็งตับได้
ทำไมอาหารที่มีไขมันสูงจึงได้รับความนิยมทั้งที่ยิ่งทานยิ่งเกิดผลเสียต่อร่างกาย ?
ทุกคนรู้ดีว่าการทานอาหารที่ประกอบด้วยไขมันในปริมาณที่มากเกินความต้องการของร่างกายในแต่ละมื้ออาหารนั้น จะส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าส่งผลดีแก่ร่างกาย แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังคงนิยมทานอาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบ เนื่องจากว่าอาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบในปริมาณที่ค่อนข้างมาก จะมีกลิ่นของอาหารและรสชาติของอาหารที่ให้ความรู้สึกที่น่าทาน และให้ความรู้สึกอยากทานอาหารมากกว่าอาหารประเภทอื่นๆ นอกจากนี้แล้วเมื่อทานอาหารที่มีไขมันสูงจนร่างกายรู้สึกอิ่มนั้น สมองจะกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกพอใจ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมคนทั่วโลกถึงชอบอาหารประเภทนี้และมีความต้องการทานมากขึ้นเรื่อยๆ ในครั้งถัดไปทั้งที่การทานอาหารเหล่านี้ส่งผลเสียมากกว่าผลดีให้แก่ร่างกาย
สาเหตุของไขมันพอกตับ ที่ไม่ได้เกิดจากการทานอาหารที่มีไขมันสูง
สาเหตุสำคัญที่ทำให้คนส่วนใหญ่ป่วยเป็นโรคไขมันพอกตับมากที่สุด คือ การทานอาหารที่ให้พลังงานสูงหรือทานอาหารที่มีไขมันที่สูงจนเกินไป แต่โรคไขมันพอกตับไม่ได้จากการทานอาหารที่มีไขมันสูงเท่านั้น เพราะมีปัจจัยอีกมากมายที่ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคไขมันพอกตับ เช่น
1. เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เป็นโรคไขมันพอกตับ ยิ่งดื่มปริมาณมาก และดื่มเป็นระยะนานแค่ไหน ไขมันพอกตับก็จะมีความรุนแรงมากเท่านั้น
2. เป็นผู้ป่วยที่เสี่ยงติดไวรัสตับอักเสบบี และไวรัสตับอักเสบซี
สำหรับไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสตับอักเสบซี ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญ ที่อาจจะก่อให้เกิดโรคไขมันพอกตับเช่นเดียวกัน วิธีการป้องกันไวรัสตับอักเสบบี และซี ควรจะไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ส่วนตัวร่วมกัน และควรป้องกันทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์
3. คนที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไป หรือคนที่เป็นโรคอ้วน
สำหรับคนที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ (ดัชนีมวลกาย 25-30) หรือคนที่เป็นโรคอ้วน (ดัชนีมวลกายมากกว่า 30) เป็นกลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการเป็นไขมันพอกตับอย่างมาก เพื่อป้องกันการเกิดโรคไขมันพอกตับ ควรหันมาออกกำลังกาย และควบคุมปริมาณอาหาร พร้อมกับเลือกทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเท่านั้น
4. คนที่เป็นโรคเบาหวาน
สำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวาน มีน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่อาจจะเป็นโรคไขมันพอกตับ
ผู้ป่วยโรคไขมันพอกตับส่วนมากเกิดจากการทานอาหารตามใจปากมากเกินไป จนทำให้ตับมีการสะสมไขมันมากเกินไป จนทำให้สุขภาพแย่ลง ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ปลอดภัยจากโรคไขมันพอกตับ ทุกคนจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีความหวาน ไขมันสูง คอเลสเตอรอลสูง และหันมาทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น